การวัดความคิดสร้างสรรค์ด้วยแบบทดสอบ ทีซีที – ดีพี
( TCT – DP )
แหล่งข้อมูล
1. วีณา
ประชากูล วารสารวิชาการปีที่ 9 ฉบับที่ 3
กรกฎาคม – กันยายน 2549
2. แบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์จากผลการวาดภาพ
TCT – DP โรงเรียนเมรี่อิมมาคุเลตคอนแวนต์ อำเภอเมือง
จังหวัดชลบุรี : learn.rru.ac.th/moodle/moodle/file.../1/.../_TCT.docx
การวัดความคิดสร้างสรรค์
แบบทดสอบของเจลเลน และเออร์บาน
เจลเลน และเออร์บาน (Jellen and
Urban. 1989: 78-86) ได้สร้างแบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ที่ชื่อว่า
TCT-DP (The Test for Creative Thinking Drawing Production) ซึ่งสร้างขึ้นตามนิยามว่า
ความคิดสร้างสรรค์หมายถึงการคิดอย่างมีสาระเชิงนวัตกรรม มีจินตนาการ และเป็นความคิดอเนกนัยซึ่งรวมถึงความคิดคล่องแคล่ว
(fluency) ความคิดยืดหยุ่น
(flexibility) ความคิดริเริ่ม
(originality) ความคิดละเอียดลออ
(elaboration) ความกล้าเสี่ยง
(risk-taking) และอารมณ์ขัน
(humor) โดยลักษณะของแบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์นี้จะให้ผู้เข้ารับการทดสอบแสดงความสามารถทางการคิดอย่างมีสาระด้วยการต่อเติมภาพที่กำหนดให้
ซึ่งเป็นกรอบสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดประมาณ 5 x 5 ตารางนิ้ว ภายในกรอบสี่เหลี่ยมนี้ จะมีภาพเส้นและจุดอยู่ 5 แห่ง และอยู่นอกกรอบอีก 1 แห่ง รวมเป็น 6 แห่ง แบบทดสอบ TCT-DP นี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบบทดสอบที่สามารถนามาใช้วัดได้กับกลุ่มเป้าหมายได้ทุกวัย
การใช้แบบทดสอบ
1. ผู้เข้ารับการทดสอบจะได้รับแบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์
TCP-DP และดินสอดำที่ไม่มียางลบ
เพื่อมิให้ผู้เข้ารับการทดสอบเปลี่ยนภาพที่วาดแล้ว
2. ผู้ทดสอบอ่านคำสั่งช้า
ๆ และชัดเจน ดังนี้
“ ภาพที่วาดอยู่ข้างหน้าเด็กๆ ขณะนี้เป็นภาพที่ยังไม่สมบูรณ์
ผู้วาดเริ่มลงมือวาด แต่ถูกขัดจังหวะเสียก่อน
ขอให้เด็กๆ วาดต่อให้สมบูรณ์ จะวาดเป็นภาพอะไรก็ได้ตามที่เด็กๆ ต้องการ ตามจินตนาการ
ไม่มีการวาดภาพใดๆ ที่ถือว่าผิด ภาพทุกภาพเป็นสิ่งที่ถูกต้องทั้งสิ้น
เมื่อวาดภาพเสร็จแล้วขอให้นำมาส่งครู ”
3. เมื่อผู้เข้ารับการทดสอบเข้าใจแล้วให้ลงมือวาดภาพ
และถ้าหากมีคำถามในช่วงที่กำลังทำแบบทดสอบ ผู้ทดสอบอาจจะตอบคำถามได้ เช่น “
หนูจะวาดรูปอะไร “ ให้ครูตอบได้ว่า “ เด็กๆ อยากวาดภาพอะไรก็ได้ตามที่อยากจะวาด รูปที่วาดเป็นสิ่งถูกต้องทั้งสิ้น ทำอย่างไรก็ได้ ไม่มีสิ่งใดผิด ” หากผู้เข้ารับการทดสอบยังมีคำถามเช่น
ถามถึงชิ้นส่วนที่ปรากฏอยู่นอกกรอบ ก็ให้ตอบในทำนองเดิม ห้ามอธิบายเนื้อหาหรือวิธีการใดๆ
เพิ่มเติม นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการพาดพิงถึงเวลาที่ควรใช้ในการวาดภาพ
ครูควรพูดทำนองที่ว่า เริ่มวาดได้เลยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา
4. ผู้ทดสอบต้องจดบันทึกเวลาการทำแบบทดสอบของผู้ที่ทำเสร็จก่อน
12 นาที โดยจดบันทึก อายุ เพศ ชื่อผู้เข้ารับการทดสอบในช่องว่างมุมขวาของกระดาษทดสอบ
5. ผู้ทดสอบบอกให้ผู้เข้ารับการทดสอบตั้งชื่อเรื่อง
ควรพูดเบาๆ โดยไม่รบกวนผู้เข้ารับการทดสอบคนอื่นที่ยังทำไม่เสร็จ แล้วเขียนชื่อเรื่องไว้ที่มุมขวาบน
เพราะจะใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการแปลผลการวาดภาพ
6. ในการทดสอบกำหนดเวลา 15 นาที หลังจากนั้นผู้ทดสอบจะเก็บข้อมูลทั้งหมด เขียนชื่อ
อายุ เพศ และชื่อภาพ ไว้ที่มุมขวาของแบบทดสอบ
เกณฑ์การประเมินผลเพื่อให้คะแนน
1. การต่อเติม
(Cn : Continuations) ชิ้นส่วนที่ได้รับการต่อเติม (ครึ่งวงกลม จุด มุมฉาก เส้นโค้ง เส้นประและสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กปลายเปิดนอกกรอบสี่เหลี่ยมใหญ่)
จะได้คะแนนการต่อเติมชิ้นส่วนละ 1 คะแนน คะแนนสูงสุดคือ 6 คะแนน
2. ความสมบูรณ์
(Cm : Completions) หากมีการต่อเติมจากเดิมในข้อ 1 ให้เต็มหรือให้สมบูรณ์มากขึ้นจะได้คะแนนชิ้นส่วนละ 1 คะแนน ถ้าต่อเติมภาพโดยใช้รูปที่กำหนด
2 รูปมารวมเป็นรูปเดียว เช่น โยงเป็นรูปบ้าน
ต่อเป็นอิฐ ต่อเป็นปล่องไฟ ฯลฯ ให้ 1 คะแนน คะแนนสูงสุดของข้อนี้คือ 6 คะแนน
3. ภาพที่สร้างขึ้นใหม่
(Ne : New Elements) ภาพหรือสัญลักษณ์ที่วาดขึ้นใหม่นอกเหนือจากข้อ
1 และ 2 จะได้คะแนนเพิ่มอีกภาพละ 1 คะแนน แต่ภาพที่วาดซ้ำๆ ภาพที่เหมือนกัน
เช่น ภาพป่าที่มีต้นไม้หลายๆ ต้น ซ้ำๆ กัน จะได้ 2 – 3 คะแนน คะแนนสูงสุดของข้อนี้คือ 6
คะแนน
4. การต่อเนื่องด้วยเส้น
(Cl : Connections made with lines) แต่ละภาพหรือส่วนของภาพ
(ทั้งภาพที่สร้างเสร็จขึ้นใหม่ในข้อ 3 หากมีเส้นลากโยงเข้าด้วยกันทั้งภายในและภายนอกจะได้รับคะแนนการโยงเส้น เส้นละ
1 คะแนน คะแนนสูงสุดของข้อนี้คือ 6 คะแนน
5. การต่อเนื่องที่ทำให้เกิดเป็นเรื่องราว
(Cth : Connections made that Contribute to a theme) ภาพใดหรือส่วนใดของภาพที่ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวหรือเป็นภาพรวมจะได้อีก
1 คะแนนต่อ 1 ชิ้น การเชื่อมโยงนี้อาจเป็นการเชื่อมโยงด้วยเส้นจากข้อ
1 หรือไม่ใช้เส้น ก็ได้ เช่น
เส้นประของแสงอาทิตย์ เงาต่างๆ การแตะกันของภาพ ความสำคัญอยู่ที่การต่อเติมนั้นทำให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ตามความหมายที่ผู้เข้ารับการทดสอบตั้งชื่อไว้
คะแนนสูงสุดของข้อนี้คือ 6 คะแนน
6. การข้ามเส้นกั้นเขต
โดยใช้ชิ้นส่วนที่กำหนดให้ นอกกรอบใหญ่ (Bid : Boundary Breaking
Fragment-dependent) การต่อเติมหรือโยงเส้นปิด รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสปลายเปิด
ซึ่งอยู่นอกกรอบสี่เหลี่ยมใหญ่ จะได้ 6
คะแนนเต็ม
7. การข้ามเส้นกั้นอย่างอิสระ
โดยไม่ใช้ชิ้นส่วนที่กำหนดให้นอกกรอบใหญ่ (Bfi : Boundary Breaking being
Fragment-dependent) การต่อเติมโยงเส้นออกไปนอกกรอบ หรือการวาดภาพนอกกรอบสี่เหลี่ยมใหญ่
จะได้ 6 คะแนนเต็ม
8. การแสดงความลึก
ใกล้ – ไกล หรือมิติของภาพ
(Pe : Perspective) ภาพที่วาดให้เห็นส่วนลึก
มีระยะใกล้ – ไกล หรือวาดภาพในลักษณะสามมิติ ให้คะแนนภาพละ 1 คะแนน หากมีภาพปรากฏเป็นเรื่องราวทั้งภาพ แสดงความเป็นมิติ
มีความลึกหรือใกล้ – ไกล ให้คะแนน 6 คะแนน
9. อารมณ์ขัน
(Hu : Human) ภาพที่แสดงให้เห็นหรือก่อให้เกิดอารมณ์ขัน จะได้ชิ้นส่วนละ
1 คะแนน หรือดูภาพรวมถ้าได้อารมณ์ขันมาก
ก็จะให้คะแนนมากขึ้นเป็นลำดับ ภาพที่แสดงอารมณ์ขันนี้ประเมินในหลายๆ ทาง เช่น
1) ผู้วาดสามารถล้อเลียนตัวเองจากภาพวาด
2) ผู้วาดผนวกชื่อที่แสดงอารมณ์ขันเข้าไปหรือวาดเพิ่มเข้าไป
3) ผู้วาดผนวกลายเส้นและภาษาเข้าไปเหมือนการวาดภาพการ์ตูน
คะแนนสูงสุดของข้อนี้คือ 6 คะแนน
10. การคิดแปลกใหม่
ไม่ติดตามแบบแผน (Uc : Unconventionality) ภาพที่มีความคิดที่แปลกใหม่แตกต่างไปจากความคิดปกติธรรมดาทั่วไป
มีเกณฑ์การให้คะแนน ดังนี้
a. การวางหรือการใช้กระดาษแตกต่างไปจากเมื่อผู้ทดสอบวางกระดาษให้
เช่น มีการพับ มีการหมุน หรือพลิกกระดาษไปข้างหลัง แล้วจึงวาดภาพ
จะได้คะแนน 3 คะแนน
b. ภาพที่เป็นนามธรรมหรือไม่เป็นภาพของจริง เช่น การใช้ชื่อที่เป็นนามธรรม
หรือสัตว์ประหลาด ให้ 3 คะแนน
c. ภาพรวมของรูปทรง เครื่องหมาย สัญลักษณ์
ตัวอักษร ตัวเลข หรือการใช้ชื่อ หรือภาพที่เหมือนการ์ตูน ให้ 3 คะแนน
d. ภาพที่ต่อเติม ไม่ใช่ภาพที่วาดกันแพร่หลายทั่ว
ๆ ไป ให้ 3 คะแนน แต่หากมีการต่อเติมภาพในลักษณะต่าง ๆ ต่อไปนี้
1) รูปครึ่งวงกลมต่อเป็นพระอาทิตย์ หน้าคน หรือวงกลม
2) รูปมุมฉากต่อเป็นบ้าน กล่อง หรือสี่เหลี่ยม
3) รูปเส้นโค้งต่อเป็นงู ต้นไม้ หรือดอกไม้
4) รูปเส้นประ ต่อเป็นถนน ตรอก หรือทางเดิน
5) รูปจุดทำเป็นตานก หรือ สายฝน
รูปทำนองนี้ต้องหักออก 1 คะแนน จาก 3 คะแนนเต็มในข้อ ง. แต่ต้องไม่มีคะแนนติดลบ คะแนนสูงสุดของข้อนี้เท่ากับ 12 คะแนน
11. ความเร็ว
(Sp : Speed) ภาพที่ใช้เวลาน้อยกว่า 12 นาที จะได้คะแนนเพิ่ม ดังนี้
1) ต่ำกว่า 2 นาที ได้ 6 คะแนน
2) ต่ำกว่า 4 นาที ได้
5 คะแนน
3) ต่ำกว่า 6 นาที ได้
4 คะแนน
4) ต่ำกว่า
8 นาที ได้ 3 คะแนน
5) ต่ำกว่า 10 นาที ได้ 2 คะแนน
6) ต่ำกว่า 12 นาที ได้ 1
คะแนน
7) มากกว่าหรือเท่ากับ 12 นาที
ได้ 0 คะแนน
คะแนนรวมของแบบทดสอบ
ตามปกติแล้วด้านหลังของแบบทดสอบจะมีช่องให้คะแนนอยู่
11 ช่อง แต่ละช่องจะมีรหัสให้คะแนน วิธีการให้คะแนน
เพียงแต่พับส่วนล่างของแบบทดสอบขึ้นมาก็สามารถให้คะแนนได้ทันที คะแนนรวมของแบบทดสอบ
TCT-DP คือ 72 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินระดับความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ของแบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์
TCT – DP เป็นดังนี้
1. ได้คะแนนรวมต่ำกว่า 24
คะแนน มีความคิดสร้างสรรค์อยู่ในระดับต่ำ
2. ได้คะแนนรวมระหว่าง 24 – 47
คะแนน
มีความคิดสร้างสรรค์อยู่ในระดับปานกลาง
3. ได้คะแนนรวมตั้งแต่ 48
คะแนนขึ้นไป
มีความคิดสร้างสรรค์อยู่ในระดับสูง
ตัวอย่างการใช้แบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ TCP-DP
ภาพจาก http://educationmuseum.wordpress.com/2013/03/16/test-of-creative-thinking-drawing-production/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น